วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ปัญหาการแต่งกายไม่เหมาะสมของนักศึกษาในปัจจุบัน

ปัญหาการแต่งกายไม่เหมาะสมของนักศึกษาในปัจจุบัน

ปัจจุบัน ค่านิยมเรื่องเครื่องแต่งกายของวัยรุ่นวัยเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องแบบนักศึกษาหญิงและชายในระดับอุดมศึกษาตามสถาบัน ต่างๆ กำลังกลายเป็นสิ่งที่สังคมไทยเริ่มวิตกกังวลพฤติกรรมการแต่งกายแบบล่อแหลม ชอบสวมเสื้อที่รัดเข้ารูป กระโปรงสั้น ผ่าสูง หรือไม่ก็สวมกางเกงยีนซีดๆ ขาดๆ และสวมรองเท้าแตะ ซึ่งมองดูเป็นแฟชั่นที่ไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงการถูกล่อลวงข่มขืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาหญิง ต้องยอมรับว่าแฟชั่นเสื้อผ้าการแต่งกายของวัยรุ่นเปลี่ยนแปลงไปมาก และนิยมแต่งตัวตามวัฒนธรรมจากต่างชาติ ยิ่งชุดเครื่องแบบนักศึกษาในปัจจุบันก็ได้รับอิทธิพลดังกล่าว 

การแต่งกายตามแฟชั่นของนักศึกษาสาวในยุคปัจจุบันที่นิยมแต่งกายแบบ "สั้นเต่อ รัดติ้ว"คือ ใส่เสื้อนักศึกษาแบบตัวเล็กๆรัดรูป และใส่กระโปรงสั้นมากๆ นอกจากกระโปรงจะสั้นแล้วยังนิยมใส่กระโปรงแบบผ่าสูง รองเท้าก็เป็นรองเท้าส้นสูงสีสันลวดลายแฟชั่นเป็นอย่างมาก ทำให้เห็นแล้วเป็นภาพที่ไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง ส่วนนักศึกษาชายก็ไม่แพ้กันนิยมแต่งกายแบบแนวเซอร์ๆ โดยเฉพาะการแต่งกายด้วยกางกางยีนแบบขาเดฟ  ปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกง สวมรองเท้าแตะ หรือรองเท้าแฟชั่นที่ไม่ใช่รองเท้าหนังสีดำ  ซึ่งจากปัญหาการ แต่งกายของนิสิต นักศึกษาอาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมต่างๆตามมา  อาทิ การล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขืน เป็นผลทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของสถาบันและของตนเองด้วย

       สาเหตุของปัญหาการแต่งกายไม่เหมาะสมของนักศึกษา น่าจะมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้

      1.แต่งการเลียนแบบแฟชั่น เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ใครๆเค้าก็แต่งกัน

      2.แต่งการเลียนแบบดาราหรือเลียนแบบต่างชาติ โดยคิดว่า การแต่งกายแบบนี้จะทำให้ตนดูดี และเป็นจุดเด่น

ผลกระทบที่เกิดจากปัญหาการแต่งกายไม่เหมาะสมของนักศึกษา 

1.แฟชั่น ชุดนักศึกษายุคใหม่ที่เน้นตามกระแสแฟชั่นได้รับความนิยมสูง ขายดีทั้งชุดของผู้ชายและผู้หญิงเพราะราคาถูก ดูทันสมัย แต่ความจริงแล้วการแต่งกายเสื้อผ้าเล็กเกินไป นอกจากจะดูไม่งามแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกด้วย

         2.ปัญหาอาชญากรรม การถูกล่วงละเมินทางเพศ การข่มขืน การถูกล่อล่วงไปกระทำอนาจารส่งผลต่อวัฒนธรรมการแต่งกายที่ดีงามของนักศึกษา ที่เป็นปัญญาชนกลับถูกมองในด้านลบเสื่อมเสียไปถึงสถาบันที่ศึกษา

         3.เป็นการตามกระแสนิยมที่ผิดๆ เป็นกระแสนิยมที่ทำให้เกิดการเลียนแบบการแต่งกายของเด็กตามผู้ใหญ่ ทำให้สิ้นเปลื้องเงินของผู้ปกครองโดยใช่เหตุและยังเป็นการปลูกฝังค่านิยมแก่คนรุ่นน้องที่ผิดๆ

      แนวทางแก้ไขปัญหา

1.กระทรวงศึกษาธิการ  กระทรวงวัฒนธรรม  สถาบันการศึกษาต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง  ควรร่วมมือร่วมใจกันรณรงค์การแต่งกายให้เหมาะสม

 2.ทางด้านสถาบันการศึกษาควรที่จะกำหนดกฎระเบียบ และกวดขันในเรื่องการแต่งกายอย่างเคร่งครัดและเอาจริงเอาจัง ควรมีการกำหนดบทลงโทษเรื่องการแต่งกายไม่เหมาะสม เพื่อให้นักศึกษาเกรงกลัวและปฎิบัติตาม


3.ทางด้านสื่อต่างๆ ควรจะนำเสนอตัวแบบหรือพรีเซนต์เตอร์การแต่งกายที่เหมาะสม เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องการแต่งกาย

อ้างอิงข้อมูล จาก:

http://learners.in.th/blog/thai-social/336640

ข้อมูลรูปภาพจาก :

www.Google.com